Submitted by adminlookout on Tue, 05/28/2019 - 12:03
คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นคอยสังเกตว่าลูกของคุณมีพฤติกรรมอย่างไร ทัศนคติหรือกระบวนการคิดเป็นอย่างไร เพราะถ้ามีพฤติกรรมที่อยู่นิ่งเฉยๆไม่ได้ ไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่คุณกำลังพูดหรือบอก ลูกคุณมีสิทธิ์ที่จะเป็นเด็กสมาธิสั้นได้ วันนี้เราจะมาบอกสัญญาณเตือนที่ลูกของคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมาธิสั้น พร้อมกับวิธีการรักษาอาการสมาธิสั้นมาฝาก
สัญญาณเตือนว่าลูกคุณเสี่ยงเป็นเด็กสมาธิสั้น
• มีผลการเรียนต่ำ ถ้าหากพบว่าลูกของคุณมีผลการเรียนที่ต่ำในช่วง ป.1-ป.2 และมีผลการเรียนที่ตกต่ำมากขึ้นในช่วง ป.4 ให้คุณสงสัยไว้ได้เลยว่าลูกคุณเป็นเด็กสมาธิสั้นหรือไม่ เพราะอาจมีโอกาสที่เด็กจะเป็นทั้งโรคสมาธิสั้น
• ทางคุณครูประจำชั้นมีการรายงานพฤติกรรมความผิดปกติของลูกคุณ เช่น ไม่ตั้งใจเรียน นั่งอยู่เฉยๆไม่ได้ มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งเสี่ยงที่ลูกของคุณจะสมาธิสั้นได้
• เล่นกับเพื่อนแบบผาดโผนและรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง
• ลูกของคุณเริ่มแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อน อยู่โดดเดี่ยวคนเดียว ไม่ชอบที่จะพูดคุยกับใครและไม่ชอบการเข้าสังคม
วิธีรักษาอาการสมาธิสั้น
• กระตุ้นพัฒนาการและปรับพฤติกรรมของลูก ซึ่งต้องใช้ทั้งเวลาและความอดทน คุณต้องใจเย็นฝึกให้ลูกเป็นผู้รับฟังและอยู่นิ่งๆ ถ้าทำได้อาการสมาธิสั้นก็จะค่อยๆดีขึ้นและหายไปเอง
• เรียนแบบตัวต่อตัว ถ้าหากคุณพอมีทุนทรัพย์แนะนำให้คุณส่งลูกไปเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัว ซึ่งสามารถช่วยให้ลูกคุณมีผลการเรียนที่ดีขึ้น ลูกของคุณก็จะมีสมาธิกับการเรียนมากขึ้น ไม่วอกแวก ไม่มีเพื่อนให้ชวนคุย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะแก้อาการสมาธิสั้นได้
• ไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรับฟังคำแนะนำในการเลี้ยงดูว่าควรจะปฏิบัติกับลูกอย่างไร จะปรับพฤติกรรมลูกอย่างไรเพื่อแก้อาการสมาธิสั้น
• หากลูกของคุณเป็นโรคสมาธิสั้น จนมีพฤติกรรมที่ควบคุมได้ยากให้รีบพาไปพบแพทย์ เพื่อที่แพทย์จะได้จิตวิทยาในการปรับกระบวนการคิดและทันคติของเด็ก ในบางรายแพทย์อาจสั่งยาเพื่อกระตุ้นการทำงานของสมองให้หลั่งสารสื่อประสาทเพิ่มมากขึ้น
หากพบว่าลูกของคุณเป็นเด็กสมาธิสั้น ถ้าปล่อยไว้นานๆคงไม่ดีแน่ ที่สถาบัน BrainFit Studio มีหลักสูตรที่สามารถช่วยพัฒนาสมาธิของลูกคุณให้ดีขึ้น ด้วยวิธีการที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่เป็นโรคสมาธิสั้นโดยเฉพาะ คุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อคุณส่งลูกคุณมาเข้าคอร์สกับเรา