เด็กที่มีอาการสมาธิสั้นมักมีความคิด การแสดงออก และพฤติกรรมที่แตกต่างออกไปจากเด็กคนอื่นๆ ฉะนั้นเพื่อเป็นการไม่ให้โรคสมาธิสั้นในเด็กหนักเกินจะเยียวยา คุณพ่อคุณแม่และคุณครู ควรร่วมมือกันเพื่อปรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในเด็กสมาธิสั้น ว่าแต่จะมีวิธีอย่างไรบ้างนั้น เรามีคำตอบให้ครับ
ในการปรับพฤติกรรมของเด็กที่มีอาการสมาธิสั้น ควรค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่เร่งรีบหรือใจร้อนเกินไป กว่าพฤติกรรมของเด็กสมาธิสั้นจะเปลี่ยนหรือดีขึ้นนั้น ต้องใช้เวลา ผู้ปกครองและคุณครูจึงมีความสำคัญ เพราะต้องใช้เวลาอยู่กับเด็กสมาธิสั้น และมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันในแต่ละวันของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น ต้องคอยบอกคอยสอนอย่างใจเย็น คอยอยู่ข้างๆ จนเด็กสามารถทำอะไรหรือคิดได้ด้วยตัวเองแล้ว ก็ค่อยๆลดบทบาทลงทีละน้อย
นอกจากนี้ ควรหากิจกรรมต่างๆ ที่สามารถช่วยเสริมทักษะในด้านต่างๆ ให้กับเด็กที่มีอาการสมาธิสั้น แต่ต้องเป็นกิจกรรมที่ไม่มีความรุนแรง เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการกระตุ้นอาการสมาธิสั้นของเด็ก ทำให้เด็กมีพฤติกรรมที่รุนแรงขึ้น อย่าใช้ความรุนแรงในการลงโทษ ควรใช้วิธีพูดคุยตกลงกันกับเด็ก เช่น ถ้าทำการบ้านเสร็จแล้วถึงจะเล่นของเล่นได้ หรือทานข้าวให้หมดก่อนถึงให้ดูการ์ตูนได้ พยายามฝึกให้เด็กสมาธิสั้นอยู่นิ่งๆ เช่น หาของเล่นพัฒาทักษะให้เด็กได้จดจ่อและมีสมาธิอยู่กับสิ่งนั้น หรือสอนให้เด็กสวดมนต์ และนั่งสมาธิก่อนนอน ก็ถือว่าเป็นฝึกพฤติกรรมเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นให้อยู่นิ่งขึ้น
ถ้าทุกคนร่วมมือกันช่วยสอน ช่วยกันปรับพฤติกรรมเด็กสมาธิสั้น เชื่อว่าอาการสมาธิสั้นของเด็กจะดีขึ้น หรือไม่เช่นนั้นลองส่งลูกของคุณมาเข้าคอร์สพัฒนาสมาธิที่สถาบัน BrainFit Studio เพราะที่นี่มีหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นโดยเฉพาะ คุณจะเห็นถึงพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของลูกคุณได้อย่างชัดเจน